ปลูกความหลากหลายให้งอกงาม

ตอนที่ 16 ไปป่าคู้ล่าง (จบ)

แชร์

56

56

ในวันที่สองที่ป่าคู้ล่าง  ช่วงพักหลังกินข้าวเช้า  พี่เจนเซ็ตกิจกรรมสาธิตเพื่อให้สมาชิกของกลุ่มผู้ปลูกผักกับผู้มาเยือนได้มีโอกาสเรียนรู้วิธีการทำแชมพูมะกรูดและเพาะถั่วงอกแบบง่ายๆ ไว้กินเอง  ซึ่งผู้ที่มานำการสาธิตก็เป็นเครือข่ายผู้ผลิตสินค้าอินทรีย์ในภาคตะวันตก  กลุ่มเพื่อนผู้ผลิตที่มีการพบปะ พูดคุย และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างกันอยู่สม่ำเสมอ

ก็อย่างที่พี่เจนบอก  ไอเดียเรื่องผู้ผลิตส่งผักตรงให้คนกินไม่ใช่แค่เป็นทางเลือกคนรักสุขภาพและหาแห่งผลิต หาของกินเท่านั้น  หากแต่เป้าหมายที่ยังอยู่ไกลแต่เราหวังไว้ร่วมกันคือการสร้างสหกรณ์เพื่อจัดระบบความสัมพันธ์ใหม่เป็นเครือข่ายที่เกื้อกูลกันระหว่างกลุ่มผู้ผลิตกับกลุ่มผู้บริโภคอันหลากหลาย

การสาธิตเริ่มจากแชมพูมะกรูดสูตรส่วนผสมธรรมชาติล้วน ตรา “ในสวน” ของพี่แป๋งกับพี่โหน่ง จาก ราชบุรี  ผลิตภัณฑ์ธรรมชาติทำมือรุ่นแรกๆ ที่ผลิตออกมาจำหน่ายเมื่อกว่า 10 ปีที่แล้ว  โดยสูตรแชมพูมะกรูดนี้พี่แป๋งบอกว่า ขึ้นอยู่กับลักษณะผมของแต่ละคน  บางคนจะใช้แล้วดี อย่างพี่แป๋งเองใช้สระผมแล้วไม่ต้องสระบ่อยๆ ทุกวัน  แต่บางคนอย่างพี่โหน่งเองซึ่งผมมันจะใช้แล้วผมลีบ

พี่แป้ง ผู้ผลิตสบู่ แชมพูในสวนสาธิตเพาะถั่วงอกแบบที่ 1ถั่วงอกจากถั่วเขียวเปลือกดำและเปลือกขาว
วิธีทำง่ายๆ คือ ล้างผลมะกรูดให้สะอาด นำมาผ่ากลาง แล้วนำไปใส่หม้อสเตนเลส   ใส่น้ำจนท่วมแล้วต้มนานจนเปื่อย ราว 1 ชั่วโมง  จากนั้นนำมาปั่นโดยเครื่องปั่นน้ำผลไม้ แล้วใช้ผ้าดิบหรือผ้าขาวบางกรองคั้นน้ำ  น้ำแชมพูที่ได้จะมีเนื้อข้นนุ่ม  แชมพูนี้เก็บได้นาน 4 – 5 เดือน โดยไม่มีจุลินทรีย์เข้าไปทำลายให้บูดเสียเพราะแชมพูมีความเป็นกรดฆ่าเชื้อได้อยู่แล้ว  หากแต่สีอาจจะเปลี่ยนจากแต่เดิมไปเท่านั้น แต่ถ้าเก็บใส่ขวดแช่ตู้เย็นไว้จะเก็บได้นานถึง 1 ปี โดยมีสีสันสวยเหมือนแรกทำใหม่ๆ  ดูสาธิตจากพี่แป๋งคลิปต์ (10 นาที) ที่นี่ http://www.youtube.com/watch?v=dMz-FpKInYI


ถัดมาเป็นการพูดคุยกับ ‘กำพล’ คนเคยทำสื่อวารสารเกษตรกรรมชาติ กับ ‘นก’ อดีตเจ้าหน้าที่มูลนิธิฟื้นฟูชีวิตและธรรมชาติ  คู่สามี-ภรรยา ที่ตัดสินใจไปใช้ชีวิตเกษตรกรครบวงจรการผลิตแบบอินทรีย์ที่เริ่มตั้งแต่ปลูกเอง เก็บผลผลิตเอง และขายเองที่  “ไร่ดินดีใจ”  อ.หนองขาหย่าง จ.อุทัยธานี


กำพลสาธิตวิธีการเลือกและเพาะถั่วเขียวอินทรีย์กินเองง่ายๆ ที่บ้าน 2 แบบ  จากถั่วเขียว 2 สายพันธุ์ (เปลือกดำ และ เปลือกเขียว) ทางเลือกเพื่อหลีกเลี่ยงถั่วเขียวในตลาดที่อาจราดสารอ้วน  โดยวิธีเพาะถั่วเขียวแบบกำพลนี้จะเป็นแบบที่กินรากด้วย  เพราะที่รากมีสารอาหารและพลังชีวิตอยู่สูง ซึ่งที่ญี่ปุ่นนิยมนำรากถั่วเขียวที่คนไทยเพาะแล้วตัดทิ้งไปตากแห้งแล้วชงน้ำร้อนกินเป็นชา  ซึ่งระหว่างการสาธิตเพาะถั่วงอกอินทรีย์มีพี่นีช่วยบรรยายเสริมเรื่องการกินถั่วงอกให้มีประโยชน์ต่อสุขภาพ สลับกับการบอกวิธีสังเกตการณ์เลือกซื้อถั่วเขียวอินทรีย์  แถมท้ายด้วยการทำแป้งถั่วเขียวอินทรีย์ไว้ใช้เอง ซึ่งแป้งถั่วเขียวนี้นอกจากจะช่วยทำให้ผิวสะอาดแล้ว ยังช่วยทำให้ผิวนุ่มและไม่แห้งกร้านอีกด้วย

เรื่องทั่วไปเกี่ยวกับถั่วงอกที่เรากิน กับถั่วงอกอินทรีย์  (10 นาที)  http://www.youtube.com/watch?v=DmmGHDt_GKw

วิธีเพาะถั่วงอกอินทรีย์จากไร่ดินดีใจ แบบที่ 1 (2.29 นาที) http://www.youtube.com/watch?v=ZS2dZ-6xzCM

วิธีเพาะถั่วงอกอินทรีย์จากไร่ดินดีใจ แบบที่ 2 (2.34 นาที) http://www.youtube.com/watch?v=O-M-qdcwKcs

สรรพคุณและวิธีทำแป้งถั่วเขียวอินทรีย์ไร่ดินดีใจ (4.54 นาที) http://www.youtube.com/watch?v=CXXwV9jMAEk



ย้อนไปเมื่อเย็นวันแรกที่เราไปถึงบ้านป่าคู้แล้วเจอ นก – กำพล และ ขิง ลูกสาววัย 5 ขวบ แล้วอดดีใจไม่ได้  ก็ทั้งครอบครัวนี้เป็นเพื่อนในแวดวงเดียวกันมานาน  เจอะเจอกันเป็นครั้งคราวตามแต่โอกาสจะเอื้ออำนวย

ไถ่ถามทุกข์สุขของผู้ผลิตอินทรีย์รายย่อยอย่างนก  นกเล่าให้ฟังถึงผลผลิตข้าวหอมนิลอินทรีย์ที่ปลูกโดยวิธีทำนาโยนในปีนี้ว่าน่าดีใจ แถมยังมีคนมาจับจองไว้จนคิดว่าอยากจะเลิกแปรรูปผลิตภัณฑ์บางชนิดแล้วลงแรงจริงจังกับข้าว 

นกเล่าให้ฟังว่าน้ำมันงาอินทรีย์ที่เธอและกำพลทำการบีบเย็นด้วยแรงตัวเองและจำหน่ายเองนั้นถูกผู้ผลิตและจำหน่ายรายหนึ่งขายตัดราคาและแอบอ้างว่าเป็นงาอินทรีย์ทั้งๆ ที่แท้จริงแล้วผลผลิตนั้นนำเข้าราคาถูกมาจากแหล่งที่ไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นอินทรีย์ทุกขั้นตอน รวมทั้งขั้นตอนการเก็บรักษางาที่ใช้วิธีฉีดพ่นสารกำจัดมอด แมลง โดยที่ก่อนหน้านี้ผู้ผลิตรายนี้เคยโทรมาพูดคุยเรื่องการผลิตงาและการเก็บรักษาจากกำพล…. 

กรรมวิธีเก็บเกี่ยวถั่วเขียว ของเธอที่ไร่ดินดีใจ  ที่เรานำไปกินได้อย่างโปร่งใจหรือจะใช้เอาไปปั่นละเอียดแล้วร่อนเป็นแป้งล้างหน้า ขัดตัว ตามแต่จะเลือกใช้นั้นผิวไม่ได้มันวาว  หากแต่จะมีสีเข้มออกคล้ำเพราะต้องปล่อยให้ถั่วแก่จัดแล้วจึงตากแห้ง ทุบเปลือก ร่อน และเก็บในที่แห้งกันแมลง และนำออกมาตากแดดบ้าง โดยก่อนขายจะนำมาล้างเอาฝุ่นออกแล้วตากแดดให้แห้งอีกสัก 2 – 3 แดด  แตกต่างไปจากการเก็บเกี่ยวถั่วเขียวส่วนใหญ่ที่มักอาศัยการฉีดพ่นยาฆ่าหญ้าเพื่อให้ใบแห้งร่วงและเก็บเมล็ดถั่วเขียวได้โดยมีผิวมันวาวสวย

ฟังเธอว่า แล้วฉันนึกว่าตัวเองโชคดีที่มีเพื่อนปลูกและซื้อผลผลิตตรงจากเพื่อนมากิน   เพื่อนซึ่งเป็นผู้ผลิตรายย่อยและไม่ค่อยมีกำลังซื้อบู้ทไปวางสินค้าจำหน่ายในงานต่างๆ  รวมทั้งแม้แต่การจ่ายค่าตรวจและรับรองคุณภาพมาตรฐานผลผลิตอินทรีย์   แต่ใช้วิธีการโทรสั่งซื้อและส่งสินค้าทางไปรษณีย์ หรือบางทีก็ยกลังสินค้ามาให้เมื่อมีโอกาสเจอกันตามงานต่างๆ

ข้าวเปลือกหอมนิล บ้านดินดีใจ
งาอินทรีย์สีแดง
เด็กน้อยในไร่ดินดีใจ


เสร็จจากการเสวนาระหว่างผู้ผลิตและสมาชิกรับผักในโครงการใจประสานใจที่บ้านป่าคู้ล่าง  พี่เก๋ ขับรถพาตุ๊กกี้และฉัน ตามหลังท้ายรถปิ๊กอัพสีขาวเก่าๆ ไปถึงไร่ดินดีใจก่อนที่ตะวันจะลับฟ้า 

นั่งนึกอยู่ในใจว่า … นอกจากความรู้ในการถามถึงขบวนการผลิตและแปรรูปผลิตภัณฑ์อินทรีย์ที่เราต้องตั้งคำถามดีๆ เวลาจะเลือกซื้อเลือกกินแล้ว  การได้ลงไปคุยและลุยดูถึงแปลง ถึงไร่-สวนแบบนี้ น่าจะเป็นสิ่งที่ทำให้เราคนกินได้รู้จักและเข้าใจของที่กินและคนที่ทำให้เรากินใช้ได้มากยิ่งขึ้น …. แต่วิธีไหนล่ะที่จะรวมพลผู้สนใจได้ผล?

ออกจากไร่ดินดีใจ  ท้ายรถพี่เก๋เลยบรรทุกทั้ง แชมพู  น้ำมันมะพร้าว น้ำมันงา  งาอินทรีย์ 3 สี (ขาว น้ำตาล ดำ) ที่ฉันเอามาทำเป็นของขวัญปีใหม่  แบ่งใส่ขวดเล็กขวดน้อย เป็นลวดลายไว้แจกจ่ายให้กับเพื่อนๆ บางคนที่ชอบเคี้ยวงาสดอินทรีย์กินเล่น ตามคำแนะนำของพี่เละ  หมออายุรเวชตำรับอินเดียที่แนะให้เรากินงาสดแทนงาคั่วบด ซึ่งนอกจากจะเสริมแคลเซียมแบบที่ไม่ต้องเสริมสารเคมีอื่นๆ พร้อมไปกับนวดกล้ามเนื้อใบหน้า และทำให้สมองผ่อนคลายไปพร้อมๆ กับการเคี้ยว

สนใจผลิตภัณฑ์ สบู่ แชมพู “ในสวน” พี่แป๋ง พี่โหน่ง  โทร. 081-627-0354
แวะเข้าไปเยี่ยมเยียน “ไร่ดินดีใจ” ได้ทางเว็บไซต์ที่  http://raidindeejai.blogspot.com/

เรื่องโดย

บุญตา วนานนท์

นักคิด นักเขียนที่สนใจ อาหาร เกษตร สิ่งแวดล้อม