ส้าบ่าเขือแจ้
แชร์
195
email-subscribers
domain was triggered too early. This is usually an indicator for some code in the plugin or theme running too early. Translations should be loaded at the init
action or later. Please see Debugging in WordPress for more information. (This message was added in version 6.7.0.) in /home4-ns1sg/food/domains/food4change.in.th/public_html/wp-includes/functions.php on line 6114jetpack-boost
domain was triggered too early. This is usually an indicator for some code in the plugin or theme running too early. Translations should be loaded at the init
action or later. Please see Debugging in WordPress for more information. (This message was added in version 6.7.0.) in /home4-ns1sg/food/domains/food4change.in.th/public_html/wp-includes/functions.php on line 6114แชร์
195
195
วันนี้ขากลับจากไร่เดินผ่านกระท่อมหลังน้อย เผอิญตาไปสะดุดกับผลมะเขือสีเหลืองสวย บ่าเขือแจ้ หรือมะเขือขื่นนี่เอง ทำให้รำลึกถึงรสอร่อยคุ้ยเคยติดลิ้นที่แม่เคยทำให้กินตั้งแต่เด็ก “ส้าบ่าเขือแจ้” จากรสและเนื้อที่เหนียวไม่กรอบ คนทั่วรุ่นใหม่จึงไม่นิยมรับประทาน เพราะผลมีรสขื่นและขมเล็กน้อย ทั้งที่เป็นผักพื้นบ้านที่มีคุณค่าสูง ใช่แล้วฉันกินผักที่ขมเฝื่อนได้ตั้งแต่จำความได้ ด้วยความที่แม่ทำอาหารโดยไม่แบ่งว่าอาหารผู้ใหญ่หรือเด็กเพียงแต่ทำไม่เผ็ดจัดแล้วกินอย่างเอร็ดอร่อยให้เห็น ในวัยเด็กฉันจึงอยากกินอยากเรียนแบบผู้ใหญ่บ้าง ทำให้ฉันกินผักได้ทุกชนิดแม้จะขมจะเฝื่อน ต่างจากพ่อแม่ปัจจุบันที่ไม่กินเป็นตัวอย่างลูกทำให้เด็กรุ่นใหม่กินผักยากไปทุกที พ่อแม่ควรกินผักหลากชนิดให้เป็นนิสัยเดี๋ยวเด็กๆ ก็ทำตามและกินผักได้เก่งค่ะ
ด้วยความอยากกินและต้องการให้คนรู้จักวิธีรับประทานมะเขือขื่น วันนี้จึงได้เวลาเหมาะเจาะรื้อเมนู ส้าบ่าเขือแจ้ คำว่าส้า คือการยำใส่น้ำพริกแห้งน้ำพอคลุกคลิกอาจใส่เนื้อสัตว์หรือน้ำปู๋แล้วแต่ชนิดผัก
มะเขือขื่นหรือบ่าเขือแจ้ ที่จะนำมาทำส้าจะเลือกลูกที่สุกเหลืองแล้ว ช่วงปลายตุลาคม – ธันวาคม มะเขือขื่นจะเริ่มทยอยสุกเหลืองสวยน่ารับประทานยิ่งนัก มะเขือพันธุ์นี้ขึ้นเองตามธรรมชาติ เนื่องจากทนแล้งทนทุกสภาพอากาศ ไม่ต้องดูแลรดน้ำถางหญ้า เธอก็งามตามธรรมชาติ เมื่อเก็บมะเขือได้สักประมาณ 10 ลูก ก็มาเตรียมส่วนประกอบกันเลยค่ะ
เตรียมส่วนประกอบ
1. มะเขือขื่น ล้างให้สะอาด หั่นฝอยบางๆ นำไปล้างน้ำ 1 ครั้งเพื่อลดความขื่น กรองเอาทั้งเนื้อและเมล็ดพักไว้
2. ปลาปิ้ง จะเป็นปลาช่อน หรือปลาทูก็ได้ วันนี้เราใช้ปลาทูตัวเขื่องปิ้งให้เหลืองหอมแกะเอาแต่เนื้อ
3. น้ำพริกส้า ประกอบด้วย พริกแห้งคั่ว 6 เม็ด กระเทียม 4-5 กลีย เมล็ดผักชี 1 หยิบมือ ตำๆ ให้แหลก ใส่กระปิแกง หลังจากนั้นนำเนื้อปลาย่างลงไปตำให้เนื้อเข้ากันกับน้ำพริก ตักพักไว้
ส้าเมื่อจะรับประทาน
หลังจากเตรียมส่วนประกอบแล้ว เมื่อจะรับประทานก็ค่อยส้า (ยำ) ทำให้ได้รสสดอร่อย โดยนำพริกส้าที่เตรียมไว้ใส่น้ำเล็กน้อยพอคลุกคลิก คลุกเคล้ากับมะเขือขื่นที่เตรียมไว้ให้เข้ากัน ใส่ผักชีฝรั่งหั่นฝอย เพิ่มความหอมให้กับส้าบ่าเขือแจ้ กินกับข้าวสวยหรือข้าวเหนียวก็อร่อยได้เหมือนกันค่ะ
แม่ฝากบอก สามารถใส่เนื้อหมู เนื้อควายที่ตากแห้งแล้วไปย่างให้หอม แล้วมาตำกับน้ำพริกส้าแทนปลาย่างก็อร่อยอีกแบบค่ะ เมล็ดมะเขือขื่นอย่าทิ้งรับประทานได้มีประโยชน์นัก ฉันไปค้นพบว่าเมล็ดช่วยแก้มะเร็ง
นอกจากนี้มะเขือขื่นคว้านเมล็ดออกล้างเอาแต่เนื้อมาแกงป่าไก่บ้านก็อร่อยเหาะ หรือจะหั่นใส่ส้มน้ำปลาร้าก็อร่อยเข้ากันเป็นไหนๆ
เมนูนี้มีแต่ได้
ผลมะเขือขื่น หรือบ่าเขือแจ้ มีแคลเซียม วิตามินซี ฟอสฟอรัส สูง ผลที่สุกเหลือง รสเปรี้ยวขื่นเย็น ช่วยบำรุงร่างกาย แก้ไอ ขับเสมหะ แก้อาเจียน รักษาแผลเป็นหนองและหืด ทั้งเป็นผักพื้นบ้านที่ทนต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ จะแล้งจัด ร้อนจัด หนาวจัดก็ยังออกดอกผลให้ได้รับประทานกันได้ทั้งปี ไม่ต้องรดน้ำใส่ปุ๋ย มากินมะเขือขื่นกันเถอะค่ะ