2 ร้านลับสายออร์แกนิกแห่งตลาดสดถนอมมิตร มิตรแท้เรื่องอาหารปลอดภัยย่านวัชรพล
แชร์
2761
แชร์
2761
2761
เรื่อง เกวลิน ศักดิ์สยามกุล
ภาพ ภูมิ เพชรโสภณสกุล
ไม่ว่าจะเป็นการหาซื้อยาก คิดว่ามีขายแต่ในโซนหรูตามซุปเปอร์มาเก็ตดังเท่านั้น ไปจนถึงความเชื่อที่ว่าผัก-ผลไม้-เนื้อสัตว์ออร์แกนิกนั้นมีราคาแพงเกินเอื้อม ล้วนแล้วแต่เป็นความเชื่อที่ฝังใจ จนทำให้เรายอมจำนน กลายเป็นคนที่ทานอะไรก็ได้ เอาง่ายไว้ก่อน
แต่ร้านลับ 2 ร้านที่เราไปค้นเจอมาจากตลาดถนอมมิตร ตลาดสดสุดฮิตของชาววัชรพลทำให้เราเปลี่ยนความคิดและความเชื่อนั้นไปโดยสิ้นเชิง เพราะเขาคือหลักฐานที่ยืนยันว่า ออร์แกนิกจับต้องได้ มีขายในตลาดใกล้บ้าน และราคาไม่ได้ทรมานกระเป๋าเท่าที่เรากลัวกัน
“ใส่ใจ” คือ ร้านลับร้านแรกที่เราได้มาคุยด้วยเป็นแผงผัก ผลไม้ ไข่ไก่ออร์แกนิก และอาหารทะเลสดที่จับจากทะเล ไม่ได้มาจากฟาร์มเลี้ยง ตั้งอยู่ใจกลางตลาดถนอมมิตร ที่มี “คุณปู” แม่ค้าสาวหน้าตายิ้มแย้มคอยอยู่ต้อนรับที่หน้าแผง พร้อมเล่าที่มาของผักที่วางเรียงรายอยู่ให้ลูกค้าทุกคนได้ฟัง
เดิมทีคุณปูมีอาชีพเป็นพนักงานบริษัทธรรมดา แต่จุดเปลี่ยนที่ทำให้คุณปูเริ่มหันมาสนใจเลือกทานอาหารแบบออร์แกนิกนั่นเกิดจากวันที่คุณพ่อของเธอป่วยหนัก ตัวเธอต้องลาออกจากงานมาเพื่อดูแลคุณพ่อ และทำให้เริ่มเล็งเห็นว่าอาหารปลอดภัย ไร้สารเคมี ว่าจริงๆ แล้วมีส่วนสำคัญในการดูแลสุขภาพของคนคนหนึ่งมากแค่ไหน
เมื่อตระหนักได้แบบนั้นแล้ว คุณปูและแฟนหนุ่มจึงเบนเข็มมาทำอาชีพพ่อค้าแม่ค้าผักออร์แกนิกอย่างจริงจัง ด้วยใจที่อยากผลักดันให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงอาหารปลอดภัยได้ง่ายมากขึ้น โดยเริ่มจากการขายที่สหกรณ์วังน้ำเขียว และขยับขยายมาเรื่อยๆ จากกลุ่มลูกค้าที่เติบโตขึ้น จนย้ายมาลงหลักปักฐานที่ตลาดถนอมมิตรเมื่อ 5 ปีที่แล้ว
แม้ช่วงแรกๆ ของการขายผักออร์แกนิกจะมีความท้าทายในการสื่อสารกับลูกค้าอยู่บ้าง เพราะมักจะได้รับคำถามว่า ทำไมผักของที่ร้านจึงแพงกว่าที่อื่น แต่คุณปูก็ไม่ย่อท้อที่จะอธิบายให้ลูกค้าได้ฟังว่า ผักออร์แกนิกที่ขายที่ร้านเธอคือผักที่ปลูกจากแปลงที่ดินปลอดสารเคมีมากกว่า 5 ปีขึ้นไป และเธอมีการสอบทานที่มาของผักผลไม้กับเกษตรกรอยู่เสมอ แม่ค้าสาวยังกระซิบบอกกับเราอีกว่า หลายต่อหลายครั้ง ราคาของผักผลไม้อินทรีย์มีราคาถูกกว่าผักผลไม้ทั่วไปอีกด้วยซ้ำ เมื่อเราเลือกรับประทานอาหารตามฤดูกาลของมัน และการทานอาหารตามฤดูกาลช่วยให้เราเลี่ยงการรับสารเคมีสะสมที่มากับสารกระตุ้นให้พืชออกใบออกผลเป็นกำไร
ที่น่าสนใจก็คือระยะหลังมานี้ลูกค้าเริ่มมีผลตอบรับต่อผักผลไม้อินทรีย์ดีขึ้นเรื่อยๆ เพราะความเข้าใจของผู้บริโภคเพิ่มมากขึ้นตามระยะเวลา บวกกับมีการสื่อสารในประเด็นนี้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งสำหรับแม่ค้าอย่างเธอก็เป็นเรื่องน่ายินดี แต่ในอีกแง่มุมหนึ่ง เธอก็คิดว่าเป็นเรื่องที่ดีกับเกษตรกรเช่นเดียวกัน เพราะเมื่อมีกลุ่มคนที่พร้อมจะอุดหนุนผักผลไม้ออร์แกนิกมากขึ้น นั่นเท่ากับเป็นการการันตีว่าผลผลิตของเกษตรกรจะมีที่ไป เป็นการกระตุ้นให้เกษตรกรหันมาปลูกผลผลิตแบบออร์แกนิกมากขึ้นด้วย
นอกจากผัก-ผลไม้ออร์แกนิกแล้ว ร้านใส่ใจยังมีอาหารทะเลสดๆ ที่จับจากทะเล ไม่ได้เป็นการเลี้ยงในฟาร์มระบบปิดไว้รอบริการผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพของตัวเองด้วยเช่นกัน การรับประทานอาหารทะเลที่มาจากธรรมชาติจริงๆ นั้นช่วยลดปริมาณสารปฏิชีวนะมือสองที่เราจะได้รับเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งสะสมอยู่ในเนื้อปลาจากอาหารที่ฟาร์มปลาระบบอุตสาหกรรมเขาใช้กัน
คุณปูทิ้งท้ายให้เราฟังด้วยว่า คุณค่าของการเป็นแม่ค้าผักออร์แกนิกสำหรับเธอคือการได้ช่วยสังคมในมุมที่เธอทำได้ จากการตั้งราคาอย่างเป็นธรรม ทำให้ผู้คนเข้าถึงอาหารปลอดภัยในราคาประหยัด และได้ความสุขจากการรับฟังการแบ่งปันประสบการณ์ของลูกค้าเจ้าประจำ ว่าพวกเขามีสุขภาพที่ดีขึ้น ลูกๆ หายจากโรคภูมิแพ้ได้จากการปรับเปลี่ยนมาทานอาหารปลอดสารพิษ
ได้ฟังแบบนี้แล้วเราก็อดไม่ได้ที่จะคว้าผักผลไม้กลับบ้านมาฝากคนในครอบครัว เพราะเราอยากให้พวกเขาได้ลองชิมผักผลไม้จากแผงที่มีแม่ค้าใส่ใจในสุขภาพของลูกค้าอย่างคุณปูบ้าง แต่ไม่ลืมที่จะเผื่อพื้นที่เอาไว้ในถุงผ้าที่เตรียมมา เพื่อไปช็อปต่อในร้านลับร้านต่อไปที่อยู่ลึกลงไปท้ายตลาดถนอมมิตร
หากแรงบันดาลใจของคุณปูคือคุณพ่อของเธอที่ป่วยหนัก แรงผลักดันให้หันมาใส่ใจกับอาหารปลอดภัยของ พ่อตี้ เจ้าของร้าน พ่อตี้ อาหารออร์แกนิก ก็คือความรักที่มีต่อลูกนั่นเอง
ในช่วงแรกที่ลูกของพ่อตี้เกิดมา เขารู้สึกอย่างแรงกล้าว่าอยากจะให้ลูกได้ทานอาหารที่ดี มีคุณภาพ ถึงกับยอมขับรถไปกลับแหล่งอาหารทะเลเองทุกสัปดาห์เพื่อซื้อวัตถุดิบมาทำอาหารให้ลูกทาน และเมื่อเสาะแสวงหาแหล่งอาหารคุณภาพได้ระยะหนึ่ง เขาก็เริ่มเห็นลู่ทางขยับขยาย จนกลายเป็นร้านผักออร์แกนิกและอาหารทะเลปลอดสารพิษภายใต้ชื่อตนเองเป็นครั้งแรกเมื่อ 6 ปีที่แล้ว
พ่อตี้เล่าว่า ลูกค้ารู้จักร้านของเขาจากอาหารทะเลที่สดใหม่ เพราะเขาเป็นคนขับรถไปเลือกวัตถุดิบเองที่แหล่งใน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรีด้วยตัวเองและนำกลับมาขายที่ร้านทุกๆ 1-2 วัน มีการอัพเดทสินค้าใหม่ทางไลน์กลุ่มของร้านจนลูกค้าประจำติดใจ จากนั้นจึงค่อยๆ ขยายมาเป็นการขายผัก-ผลไม้ออร์แกนิก โดยสินค้าทุกชนิดมาจากต้นตอผู้ผลิตที่พ่อตี้ต้องลงไปตรวจสอบด้วยตัวเองถึงที่
หากถามว่าลูกค้าติดใจผัก-ผลไม้ออร์แกนิกเพราะอะไร พ่อตี้ตอบง่ายๆ ว่าเป็นเพราะอาหารออร์แกนิกนั้นหวาน อร่อย รวมถึงมีกลิ่นหอมกว่าอย่างเห็นได้ชัด ทำให้เด็กทานผักได้ง่ายขึ้นด้วยเพราะเมื่อนำผักออร์แกนิกไปประกอบอาหารแล้วจะไม่มีรสขมที่เด็กไม่ชอบ จนลูกค้าเปิดใจและเปลี่ยนความคิดว่าจ่ายเงินกับผักและอาหารปลอดภัยดีกว่าไปจ่ายกับค่ารักษาพยาบาลในภายหลัง
นอกจากนี้ พ่อตี้ยังมีการคิดต่อยอดไปมากกว่าแค่การขายวัตถุดิบ แต่มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารร่วมกันกับเกษตรกรออร์แกนิก จนกลายเป็นสินค้าพิเศษที่จำหน่ายเฉพาะที่ร้าน ไม่ว่าจะเป็นวุ้นเส้นจากถั่วเขียวออร์แกนิก กะปิออร์แกนิก น้ำปลา น้ำแร่ ไปจนถึงน้ำใบเตยสกัดเย็น ซึ่งของเหล่านี้ผลิตโดยชุมชนในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศไทยที่พ่อตี้ไปทำงานด้วย และช่วยสนับสนุนพวกเขาจนได้มีโรงงานผลิตเป็นของตัวเอง เป็นการสนับสนุนเศรษฐกิจฐานรากอีกทางหนึ่ง
และเรื่องที่เด็ดที่สุดที่ไม่เล่าคงไม่ได้ คืออาหารทั้งหมดที่จำหน่ายในร้านพ่อตี้จะต้องผ่านการสุ่มตรวจหาสารเคมีในห้องแล็บทุกๆ สัปดาห์ ซึ่งพ่อตี้ให้ความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากการขายอาหารปลอดภัยมีจุดสำคัญคือการสร้างความเชื่อใจกลับกลุ่มลูกค้า เขาพูดอย่างภาคภูมิใจว่านี่คือการสร้างมาตรฐานหนึ่งที่เขาทำให้ลูกค้าได้ พร้อมอวดเอกสารผลการตรวจจากห้องแล็บประจำสัปดาห์ให้เราได้ดูกันอีกด้วย
บอกเลยว่าทั้ง 2 ร้านออร์แกนิกลับนี้เป็น Hidden Gems ที่ซ่อนอยู่ในตลาดสดย่านชานเมือง ที่เป็นเหมือนกลไกสนับสนุนให้ผู้คนมีอาหารปลอดภัยไว้ทานกัน โดยไม่ต้องจ่ายราคาแพงเท่ากับในห้าง ได้สุขภาพที่ดีกลับไป แถมยังได้อุดหนุนช่วยเหลือธุรกิจเล็กๆ ที่ดำเนินการโดยคนธรรมดาให้ขับเคลื่อนต่อไปได้
เรียกได้ว่าทานอาหารกันแบบสบายใจ อิ่มท้อง และอิ่มใจไปด้วยแน่นอน 🙂