หวานมะยม
แชร์
121
email-subscribers
domain was triggered too early. This is usually an indicator for some code in the plugin or theme running too early. Translations should be loaded at the init
action or later. Please see Debugging in WordPress for more information. (This message was added in version 6.7.0.) in /home4-ns1sg/food/domains/food4change.in.th/public_html/wp-includes/functions.php on line 6114jetpack-boost
domain was triggered too early. This is usually an indicator for some code in the plugin or theme running too early. Translations should be loaded at the init
action or later. Please see Debugging in WordPress for more information. (This message was added in version 6.7.0.) in /home4-ns1sg/food/domains/food4change.in.th/public_html/wp-includes/functions.php on line 6114แชร์
121
121
มะยมติดลูกและเริ่มเก็บกินได้ช่วงต้นๆ เดือนตุลาคม ช่วงที่ฝนฉ่ำฟ้าแทบทุกวัน ช่วงใหม่ๆ
หลังจากชม้ายตามองแบบหมายปองจะกินมันตั้งแต่ออกลูก รอกระทั่งลูกมะยมยังเขียวระเรื่อไม่ทันเหลืองใส ก็เดินไปคว้ามันมากินเสียก่อน
หลังฝนตกปลิดมะยมออกจากต้นแล้วเคี้ยวสดๆ ไม่พึ่งพิงเครื่องจิ้มแม้จะง่ายที่สุดอย่างเกลือสมใจอยาก
แต่ก็กินมันได้ไม่นานไม่มาก เพราะแม้มะยมต้นที่บ้านจะจัดว่าไม่เปรี้ยวจัดแต่ไม่ถึงขั้นจืดไร้เปรี้ยว แต่ก็ชวนเข็ดเขี้ยวอยู่ไม่น้อย
ลูกมะยมข้างต้นที่อยู่ข้างหน้าต่างด้านขวาโต๊ะทำงานย้ายมาอยู่บนจานข้างจอคอมและคีย์บอร์ด
พร้อมถ้วยกะปิหวาน ที่ปรุงง่ายๆ จากน้ำปลาหวานที่เหลือกินกับมะม่วงโดยเติมกะปิเพิ่มลงไป
สำหรับฉันแล้ว เปรี้ยวแบบมะยมจะกินให้กลมกล่อมกับน้ำปลาหวานที่เหลือจะต้องเค็มและมีกลิ่นรสของกะปิเพื่อเพิ่มความนัว
จึงเข้ากันกับความเปรี้ยวแบบมะยม
ฉับพลันทีความเปรี้ยวจี๊ดจ๊าดผสมผสานความหวานเค็มเผ็ดของเครื่องจิ้มผสานผสมอยู่ในปากและรับรู้รสด้วยลิ้น
อาการง่วงซึมเซื่องจากการนั่งหน้าจอพิมพ์ก็อกแก็กก่อนหน้าก็หายไปทันที
ด้วยระยะเวลาไม่เกิน 10 นาทีของการจัดเก็บ เตรียมเครื่องจิ้ม และกินอย่างอร่อยเอร็ดนั้น
ทำให้รู้สึกกระชุ่มกระชวยกระฉับกระเฉงขึ้นมาให้ตั้งหน้าปั่นงานต่อจากบ่ายไปถึงเย็นจนเสร็จ
ระหว่างปั่นงานต่อ ความคิดแว๊บๆ ของมะยมเข้ามาโลดแล่นเป็นระยะ
แต่นั่นแหละ ยังไงก็จัดการกินลูกมันไปแล้วนี่ อิ อิ
จนค่ำแล้ว ฉันนั่งกินข้าวกับแม่ มะยมแว๊บๆ ที่เข้ามาแทรกแซงความคิดระหว่างงานก็เผยออกมาในสำรับข้าว
กินข้าวกันสองคนแท้ๆ ฉันบอกแม่ว่าคิดถึงพี่สาว ลูกของป้าที่แม่เลี้ยงเหมือนลูกอีกคน
เมื่อ 2 เดือนก่อนพี่สาวกลับบ้านมาหาและพาแม่ไปเที่ยวที่ตลาดน้ำอโยธยา คั้นพอเห็นมะยมเชื่อมเสียบไม้ใส่ถุงไว้
พี่สาวฉันก็ทำท่าพยักพะเยิดอย่างเป็นอันรู้กันว่าจะกิน
ครั้นเม็ดมะยมเชื่อมรสอมเปรี้ยวอมหวานปะแล่มเค็มนิดๆ อยู่ในปากพี่สาว พี่ ฉัน และแม่ก็พลอยคุยกันถึงยายจวงอย่างออกรส
ยายจวงที่ว่า เป็นผู้หญิงวัยสัก 50 แก่กว่าพี่สาวฉันไม่กี่ปี แต่ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ในตลาดต่างเรียกหญิงคนนี้ว่ายายจวงทั้งนั้น
เธอทำขนมเชื่อม ประเภทมะยมเชื่อม มันเชื่อม เสียบไม้ขาย วางใส่ถาดอะลูมิเนียมสี่เหลี่ยมราดน้ำเชื่อมเหนียวหวานสีสวย
วางเคียงกับพุทรากวน พุทราแผ่นราดน้ำเชื่อม กล้วยหักมุกเชื่อมสีแดง กล้วยไข่เชื่อมสีเหลืองปลั่ง
หม้อใบใหญ่ที่ใส่เส้นราดหน้าเส้นหมี่ เส้นใหญ่ผัดเตรียมไว้กับอีกหม้อที่มีน้ำราดหน้าผัดใส่หมูสามชั้นปนลูกชิ้นสีแดงๆ ผ่าซีก
ส่วนอีกฟากของแผงมีเครื่องหวานเย็นใส่โหลใสเล็กๆ ให้เลือกกิน และมีขาตั้งสำหรับไสน้ำแข็งที่วางซ่อนในกองแกลบด้านหลังของแผง
ซึ่งเมื่อจะกินต้องไปเอาน้ำแข็งมาล้างในกะละมังน้ำสะอาดข้างๆ กองแกลบแล้วใส่กระติกพลาสติกที่วางข้างตัวคนขาย
แผงร้านยายจวงขายในโรงเรียนประถมในช่วงกลางวัน และย้ายมาขายที่แผงเล็กๆ ข้างศาลาแดง ท่าศาลาน้ำหน้าอำเภอ
เป็นที่พึ่งของเด็กๆ ที่กระโจนเล่นน้ำที่หัวกะไดของท่าน้ำ และของชาวตลาดที่พักผ่อนหย่อนใจกันในวันอดีต
มะยมเชื่อม เชื่อมเราเลยไปถึงเรื่องเล่าของตาชู
เจ้าของสวนแสนหวง มีอาวุธประจำตัวเป็นหนังสติ๊กที่เอาไว้ยิงเด็กๆ หัวขโมยรักสนุกในตลาด
แม้ว่าบ้านเราตอนนั้นจะไม่มีที่ปลูกและมีเงินพอจะซื้อกินเพราะมันก็ไม่ได้แพงมากมาย
แต่ใช่ว่ามะยมซื้อจะอร่อยอย่างที่ลักตาชูมากินได้เสียเมื่อไหร่
ทั้งพี่สาวและฉันต่างถูกปู่ตีกำหลาบเพราะแกมาฟ้องปู่กันแบบต่างกรรมต่างวาระ
ไม่แน่ใจว่ารสมะยมเชื่อมกับรสรำลึกในวัยอดีตนั้นรสใดนำหน้ากันแน่
วันรุ่งขึ้น แม่เก็บมะยมมาล้าง เอาเขียงคลึงให้มะยมพอช้ำ
แล้วเอามะยมที่คลึงแล้วใส่คืนกะละมัง โรยเกลือป่นสัก 1 ช้อนโต๊ะ แล้วคั้น
แม่ว่าขยำให้เปรี้ยวมันออกไปบ้าง แม่ขยำจนหนำใจแล้วก็เอาน้ำสะอาดล้างให้หมดจด
จากนั้นแม่ละลายน้ำปูนแดงกับน้ำ แล้วเอามะยมที่ถูกบีบคั้นจนช้ำนั้นแช่ลงไป
น้ำปูนใสค่อยๆเปลี่ยนสีผิวของลูกมะยมตรงที่ช้ำๆให้กลายเป็นสีคล้ำออกน้ำตาลเป็นหย่อมๆ
แม่ปล่อยมะยมไว้อย่างนั้นแล้วหันไปยุ่งกับหมาๆ ในบ้าน ราวชั่วโมงได้กระมัง จึงเทน้ำปูนใสออกแล้วล้างให้สะอาดอีกที
เย็นแล้ว ถึงเวลาตั้งสำรับ
ฉันเตรียมจานข้าวตักกินกับกับที่แม่เตรียมไว้ ก่อนกินข้าว แม่เตรียมเชื่อมมะยม
ที่บ้านไม่มีกระทะทองเหลืองอย่างของยายจวง แม่ใช้หม้ออะลูมิเนียมตั้งเตา
ใส่มะยม ใส่น้ำแค่พอท่วมมะยมเล็กน้อยแล้วโกยน้ำตาลใส่ 3 – 4 – 5 – 6 ช้อนโต๊ะ แล้วตั้งเตาไฟกลางๆ แล้วกลับมานั่งลงกินข้าวกัน
เท่าที่ดูที่แม่เชื่อมมะยมหลายครั้ง ครั้งไหนที่ใช้น้ำตาลมากจัดและเคี่ยวนาน น้ำงวดจนแห้งและเหนียว
สีมะยมเปลี่ยนเป็นแดงสวยได้เองโดยไม่ต้องใส่สีแดงๆ
แต่หญิงหวานอยู่แล้วอย่างแม่ที่ต้องควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดก็ไม่เคยจำหรือบอกฉันได้สักทีว่ามะยมเท่านั้นเท่านี้จะใช้น้ำตาลกี่ช้อน!
มาตรากะของแม่ใช้ลิ้นตวงกับความซ้ำซากจำเจในการทำบ่อยๆ เป็นเครื่องวัด
ข้าวเข้าปากแต่ฉันก็ยังพูดถึงพี่สาวได้เจื้อยๆ ใจนึกอยู่พี่สาวคงไม่น่าจะกลับมาทันมะยมเชื่อมของแม่งวดนี้แน่
แม่เองก็คงรู้อย่างเดียวกันกับฉันเช่นกัน
ตื่นรุ่งเช้าอีกวัน ฉันตักมะยมเชื่อมใส่กระปุกเล็กๆ 3 อัน หอบเอามาจากบ้านต่างจังหวัดเผื่อเพื่อนที่ไม่ได้เจอะเจอกันเสียนาน
กะว่ามะยมเชื่อมในถุงผ้าเที่ยวนี้จะเชื่อมความรำลึก ความทรงจำ และเรื่องราวของเพื่อนขึ้นมาปะติดปะต่อเป็นเรื่องเล่าใหม่ๆ
คุณละ มีความทรงจำอะไรเกี่ยวกับมะยมเชื่อมที่อยากเล่าให้เราฟังกันบ้าง?
จาก เรื่องเรียงเคียงจาน นก อยู่วนา ฉลาดซื้อ ฉบับที่ 118 ธันวาคม 2553
หวานมะยม
มะยมข้างบ้าน ช่วงนี้เนื้อหอม ทั้งๆ ที่ใครๆ ที่ว่ารูดกิ่งต่างออกอาการเปรี้ยวปาก – น้ำลายสอ
บางที่ลูกยังไม่ทันใหญ่ เขียวขุ่นๆ ยังไม่ใหญ่และผิวเหลืองใส รสชาติแค่ฝาดๆ คนจะกินก็มีกะใจและจินตนาการไปไกลถึงรสชาติของมันแล้ว
มะยมที่แม่เอาไปคลึงให้เนื้อช้ำ แล้วเอาไปขยำกับเกลือ ล้างน้ำออกแล้วเอามาแช่น้ำปูนใสสัก 1 – 2 ชั่วโมง
ตั้งไฟ ใส่น้ำ น้ำตาล แล้วปล่อยเคี่ยวไฟจนงวดได้ที่
เริ่มต้นเคี่ยวน้ำตาลบนเตาไฟ
ยังเคี่ยวน้ำตาลและไฟไม่งวด
อ่อนไฟ อ่อนน้ำตาล เลยกลายเป็นมะยมแดงอ่อน
เกือบใช้ได้แล้วแหละ
เสร็จแล้ว มะยมเชื่อม