ข้าวเหนียวเปียกลำไย
แชร์
129
แชร์
129
129
สวัสดีเดือนสิงหาคมเดือนแห่งวันแม่ครับผม พูดถึงวันแม่แล้วผมนึกถึงอาหารหนึ่งอย่างที่แม่ชอบทำให้กินในช่วงเดือนสิงหาคมของทุกปีซึ่งแม่จะใช้วัตถุดิบที่ออกมามากในช่วงนี้คือ “ลำไย” อีกทั้งช่วงปลายเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมาผมเองได้ร่วมงาน “มหกรรมอาหารและสุขภาพวิถีไท ครั้งที่ 1” ซึ่งในงานก็มีสินค้าอินทรีย์มากมาย ให้ผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมงานได้เลือกซื้อหา ตัวผมเองก็ได้จับจ่ายสินค้าอินทรีย์มาพอสมควรจึงจะขอทำเมนูอาหารที่แม่ชอบทำบวกวัตถุดิบที่ได้มาจากในงาน “มหกรรมอาหารและสุขภาพวิถีไท ครั้งที่ 1” กับนั่นก็คือ “ข้าวเหนียวเปียกลำไย” ที่มีสามสหายจากสวนของพี่ที่รู้จัก คือเมล็ดบัวสด เผือกบ้าน และข้าวโพดหวานมาเพิ่มสีสันให้กับเมนูนี้ให้น่ากินยิ่งขึ้น
สิ่งที่ต้องใช้สำหรับเมนูข้าวเหนียวเปียกลำไย
ลำไยแกะเอาเฉพาะเนื้อ 500กรัม
ข้าวโพดหวาน 1 ฝัก แกะเอาเฉพาะเมล็ด
เผือกหั่นเต๋า ประมาณ 200 กรัม
ถั่วแดง ประมาณ 200 กรัม
เมล็ดบัวสดแกะเอาดีบัวออก ประมาณ 200 กรัม
น้ำตาลอ้อยอินทรีย์ ประมาณ 500 กรัม
ข้าวเหนียว ปกากะญอ 250 กรัม
ข้าวเหนียว เขี้ยวงู 250 กรัม
เกลือสมุทร 1 อุ้งมือ
ใบเตย 5-6 ใบ
น้ำสะอาด 1 ลิตรโดยประมาณ
วัตถุดิบครบแล้วลงมือทำกันเลยดีกว่าครับ
เริ่มต้นจากนำนำหม้อต้มน้ำ ระหว่างที่รอน้ำเดือดก็นำข้าวเหนียวทั้งสองและถั่วแดงซาวน้ำเลือกเอาเมล็ดที่ลอยหรือเสียออกไปซาวจนสีของน้ำใสไม่ขุ่นจากนั้นเทใส่กระชอนพักให้สะเด็ดน้ำ
เมื่อน้ำเดือด เบาไฟและใช้ไฟกลาง เทข้าวเหนียวและถั่วแดงลงไป จากนั้นใส่เมล็ดข้าวโพด เผือก เมล็ดบัว ที่เราเตรียมไว้ลงไป คอยคนตลอดเพื่อป้องกันไม่ให้ข้าวใหม้ติดหม้อพอข้าวเหนียวเริ่มใสขึ้นลดไฟใส่น้ำตาลลงไปคนให้ทั่ว ตัดรสด้วยเกลือ
จากนั้นใส่ลำไยที่เราเตรียมไว้ลงไป คนให้เข้ากันรอให้มีฟองเดือดบปุดๆก็ใช้ได้แล้วครับผม แต่ตอนนี้ยังทานไม่อร่อยนะครับ ต้องรอให้เขาเย็นตัวลงก่อน ระหว่างที่รอเรามาทำกะทิราดหน้าข้าวเหนียวเปียกกันดีกว่า
การทำหัวกะทิราดหน้า
นำหัวกะทิประมาณ 400 กรัม เกลือและแป้งข้าวเหนียวอย่างละประมาณครึ่งอุ้งมือ ใส่หม้อใบเล็กๆ ใช้ตะกร้อมือตีให้แป้งละลายผสมกับกะทิ พอละลายดีแล้วนำไปตั้งไฟชิมรสให้เค็มๆมันๆ จนกะทิข้นขึ้นก็ใช้ได้แล้วครับผมที่สำคัญต้องคนตลอดเวลานะครับป้องกันกะทิแตกมัน
เมื่อข้าวเหนียวเปียกเย็นแล้วก็นำทั้งสองอย่างมาพบกันได้เลยครับ
**
– เกร็ดเล็กๆส่งท้าย ถ้าอยากให้ข้าวเหนียวเปียกเขาบานมากบานน้อยให้เราคอยหมั่นสังเกตุถ้าเราชอบข้าวเหนียวเปียกบานน้อยๆก็ให้เราเติมน้ำตาลเร็วขึ้นเพราะน้ำตาลจะเข้าไปรัดตัวเนื้อข้าวเหนียวทำให้ข้าวเหนียวเราไม่บานมาก
– การทำขนมในสมัยก่อนจะไม่ทำขนมที่มีรสหวานมาก คนสมัยก่อนจะนิยมทำในรส “หวานลูกไม้” คือหวานระดับเดียวกับผลไม้ที่เราจะมาใช้ในตำหรับ
– อีกวิธีสำหรับท่านที่ไม่ชอบข้าวเหนียวเปียกบานๆก็คือ ให้นำก้อนสารส้มมาใช้ซาวข้าวเหนียวและถั่วแดงในขั้นตอนการซาว
– ไม่ควรใส่น้ำตาลหมดในคราวเดียว เหลือไว้ซักส่วน เพราะเราต้องเพิ่มลำไยที่หวานอยู่แล้ว และเมื่อข้าวเหนียวเปียกของเราเย็นตัวลงก็จะหวานขึ้นอีก
– ถ้ามีมะพร้าวอ่อน สามารถใช้น้ำมะพร้าวอ่อนมาต้มข้าวเหนียวเปียกของเราก็จะทำให้อร่อยมากขึ้น และสามารถเติมเนื้อมะพร้าวอ่อนลงไปได้อีกด้วย
– เราสามารถเติมธัญพืชเช่นงา ลูกเดือย หรือผลไม้ชนิดอื่นๆเพิ่มเติมลงไปได้
ปล. ข้าวเหนียวเปียกจะเพิ่มขนาดขึ้นประมาณ 4-5 เท่า ดังนั้นภาชนะที่ใช้ควรมีขนาดใหญ่หน่อยนะครับ หรือลดวัตถุดิบลงได้นะครับ