น้ำพริกระกำ สะตอไข่
แชร์
111
แชร์
111
111
ช่วงเดือนกรกฎาคมถึงเดือนสิงหาคม เป็นช่วงที่ระกำออกมากแต่ตามท้องตลาดก็มักจะเป็นระกำหวานเสียมากกว่า เว้นเสียแต่ว่าคุณจะมีโอกาสไปทางภาคตะวันออกหรือทางภาคใต้ ตามตลาดสด ตลาดเช้า จะได้เจอทะลายระกำวางขายปะปนกับผักพื้นบ้านอื่นๆ ถ้าไถ่ถามได้ความว่าเปรี้ยว ก็ถือว่าเป็นลาภปากเข้าให้แล้ว แต่ลาภปากคราวนี้ส่งตรงมามาจาสวี ชุมพร ด้วยมิตรจิตมิตรใจ มีแก่ใจส่งมาให้ทั้งแบบเปรี้ยวแบบหวาน จึงจัดแจงปอกระกำแล้วฝานเปาแต่เนื้อๆ ระกำเปรี้ยวเมล็ดจะโตเนื้อบางๆ ค่อยๆ ฝานเนื้อระกำใส่ถ้วยใบเล็ก กลิ่นความเปรี้ยวทำเอาน้ำลายปริ๊ดๆ ในปาก
วัตถุดิบ :
– กะปิ 2 ช้อนโต๊ะ
– น้ำตาลอ้อยหรือต้ำตาลโตนดผง 1 ช้อนชา (ไม่ต้องพูน)
– เนื้อระกำเปรี้ยวๆ 1 ถ้วยเล็กๆ (ดังภาพ)
– พริกขี้หนูสวนทั้งเขียวทั้งแดง 20 เม็ด(เพิ่มลดได้ตามความทรหดของผู้กิน)
– กระเทียมไทยกลีบเล็กๆ 20 กลีบ(2-3 หัว แล้วแต่ขนาดหัว)
– น้ำปลา ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ (ขึ้นอยู่กับว่ากะปิเค็มจัดหรือไม่ ต้องชิมไปเติมไป)
– น้ำต้มสุกที่เย็นแล้ว
เริ่มตำ
– จะตำพริกกับกระเทียมให้ละเอียดก่อนค่อยใส่กะปิหรือจะใส่กะปิลงไปตอนแรกเลยก็ได้ อาจรู้สึกหนืดครกแต่จะไม่กระเด็น ตำจนแหลกเข้ากัน แหลกมากแหลกน้อยตามแต่ท่านผู้ตำจะนิยม
– ใส่น้ำตาล ลงไปตำให้เข้ากัน
– จากนั้นใส่เนื้อระกำ คราวนี้ตำเบาๆ คนไปด้วย จะได้ไม่เละ มองเห็นชิ้นเนื้อระกำน่ากิน
– เติมน้ำต้มสุกลงไปดูความเหลวของน้ำพริกตามต้องการ คนให้เข้ากัน กลิ่นจะฟุ้ง
– ชิมรสหากไม่เค็มก็เติมน้ำปลา ตักใส่ถ้วยพร้อมกิน :p
“ไข่เจียวสะตอ”
น้ำพริกกะปิกับสะตอนั้นเข้ากันมากๆ ไม่ว่าจะเป็นสะตอสด สะตอเผา สะตอดอง แต่วันนี้เราจะทดลองอีกวิธีที่ต้องอร่อยแน่ๆ อยู่แล้ว คือการเอาสะตอมาใส่ในไข่เจียว ด้วยกลิ่นที่คล้ายชะอมเราก็น่าจะลองเอามาแทนชะอมดู ว่าแล้วก็ลงมือเลย
วัตถุดิบ :
– ไข่เป็ดหรือไข่ไก่ 2 ฟอง
– สะตอ 1 ฝัก ประมาณ 10 กว่าเม็ด
– น้ำปลา 2 ช้อนชา
– น้ำมันพืชสำหรับทอด
ลงมือ
– ปอกสะตอเอาแต่เม็ดแล้วซอยบางๆ ตามภาพ
– ตอดไข่ใส่ชามตีจนไข่ขาวไข่แดงเข้ากัน เติมน้ำปลา
– นำสะตอที่ซอยไว้ใส่ลงไปในไข่
– ตั้งกะทะเติมน้ำมันสำหรับทอดรอจนน้ำมันร้อนจนควันเกือบขึ้น
– เทไข่สะตอที่เตรียมไว้ลงในน้ำมันร้อนๆ แล้วเบาไฟเป็นกลางๆ
– รอจนด้านล่างเหลืองกรอบ แล้วกลับด้าน
– รอจนแน่ใจว่าสุกดีแล้วเร่งไฟขึ้น ใช้ไฟแรงตอนท้าย จะไม่อมน้ำมัน พอใจความเหลืองเกรียมกรอบแล้วค่อยๆ ตักวางบนจาน
เรียบร้อยมื้ออร่อยแล้วก็ต้องกินข้าวแบบแหกหม้อแหกไหทีเดียว 😉